วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ผักกาดหวาน

ชื่อวิทยาศาสตร : Lactuce sativa var. longifolla

ผักกาดหวานเป็นพืชล้มลุกการปลูกดูแลรักษาคลายผักกาดหอมห่อต้องการสภาพอากาศเย็น อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 10 – 24 องศาเซลเซียส ในสภาพอุณหภูมิสูงการเจริญเติบโตทางใบจะลดลง และสร้างสารสีขาวคล้ายน้ำนมหรือยางมาก เส้นใยสูงเหนียวและมีรสขมดินที่เหมาะสมต่อการปลูกควรร่วนซุย มีความอุดมสมบูรณ์ และมีอินทรียวัตถุสูง หน้าดินลึก และอุ้มน้ำได้ดีปานกลาง สภาพความเป็นกรดเป็นด่างของดินอยู่ระหว่าง 6 – 6.5 พื้นที่ปลูกควรโล้งและได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ เนื่องจากใบผักกาดหวานมีลักษณะบางไม่ทนต่อฝน ดังนั้นในช่วงฤดูฝนควรปลูกใต้โรงเรือน

การปลูกผักบนพื้นที่สูงการเตรียมดินขุดดินตากแดดและโรยปูนขาวหรือโดโลไมท์ อัตรา 100 กรัม/ตารางเมตรทิ้งไว้ 14 วัน ให้วัชพืชแห้งตาย ขึ้นแปลงกว้าง 1 เมตร ใส่ปุ๋ยสูตร 12 – 24 – 12 และสูตร 15 – 0 – 0 รองพื้นปุ๋ยคอกอัตรา 2 – 4 ตัน/ไร่ การเตรียมกล้าเพาะกล้าในถาดหลุมแบบประณีต วัสดุเพาะควรมีระบบน้ำดีการปลูกนําต้นกล้าที่เพาะไว้อายุประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ มาปลูกโดยใช้ระยะปลูก 30 x 30 เซนติเมตร ในฤดูร้อน และ 40 x 40 เซนติเมตร ในฤดูฝนเพื่อป้องกันการระบาดของโรค

การปลูกผักบนพื้นที่สูงการให้น้ำควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอต่อการเจริญเติบโต การให้ไม่ควรมากเกินไป อาจทําให้เกิดโรคโคนเน่าการให้ปุ๋ยหลังปลูก 7 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 46 – 0 – 0 ผสมสูตร 15 – 15 – 15 อัตราส่วน 1 : 1 ปริมาณ 50 กิโลกรัม/ไร่ พร้อมกําจัดวัชพืช หลังปลูก 20 – 25 วันใส่ปุ๋ยสูตร 13 – 13 – 21 โดยขุดร่องลึก 2 – 3 เซนติเมตร รอบโคนต้น รัศมีจากต้น 10 เซนติเมตร โรยปุ๋ย 2 ช้อนโต๊ะ กลบดินแล้วรดน้ำพร้อมกําจัดวัชพืช

ข้อควรระวัง
1. ควรฉีดพ่น แคลเซียม และโบรอน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันอาการปลายใบไหม้ (Tipburn) ในบางพื้นที่ซึ่งมีปัญหาขาดธาตุรอง
2. การพรวนดิน ระวังอย่า กระทบกระเทือนรากหรือต้น เพราะจะมีผลต่อการเข้าปลีที่ไม่สมบูรณ์
3. ไม่ควรปลูกซ้ำที่เดิม

การปลูกผักบนพื้นที่สูงการเก็บเกี่ยวเมื่อผักกาดหวานมีอายุได้ ประมาณ 40 – 60 วัน หลังจากย้ายปลูกใช้หลังมือกดดูถ้าแน่นก็เก็บได้ ( กดยุบแล้วกลับคืนเหมือนเดิม ) ใช้มีดตัด และเหลือใบนอก 3 ใบ เพื่อป้องกันความเสียหายในการขนส่ง หลีกเลี่ยงการเก็บเกี่ยวตอนเปียก ควรเก็บเกี่ยวตอนบ่ายหรือควรผึ่งลมในที่ร่มและคัดเกรด ป่ายปูนแดงที่รอยตัด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคเข้าสู่หัวแล้วบรรจุลงในพลาสติกเพื่อรอขนส่งต่อไป

ข้อควรระวัง
1. ในฤดูฝน เก็บเกี่ยวก่อนผักโตเต็มที่ 2 – 3 วัน เพราะถ้าปล่อยให้ผักโตเต็มที่ผักจะเน่าง่าย
2. เก็บซากต้นนําไปเผาหรือฝังลึกประมาณ 1 ฟุต ป้องกันการระบาดและสะสมโรคในแปลงปลูกคุณค่าทางโภชนาการผักกาดหวานมีน้ำเป็นองค์ ประกอบ และมีวิตามินซีสูง นอกจากนี้ยังมีฮีโมโกลบิน ( hemoglobin ) ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง บรรเทาอาการท้องผูกเหมาะสําหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน

การใช้ประโยชน์ ผักกาดหวานเป็นพืชที่นิยมบริโภคสดโดยเฉพาะในสลัดหรือกินกับยํา แต่สามารถประกอบอาหารได้ในบางชนิด เช่น นําไปผัดกับน้ำมันโดยใช้ไฟแรงอย่างรวดเร็ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...