วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

มะม่วงหิมพานต์

ลักษณะทั่วไป

มะม่วงหิมพานต์เป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนของอเมริกา เขตแล้งชายฝั่งทะเลตอนกลางและตอนเหนือของบราซิล มะม่วงหิมพานต์เผยแพร่ไปยังส่วนต่างๆ ของโลกโดยนัดเดินเรือชาวสเปน เข้าสู่ประเทศไทยพร้อมๆกับยางพารา ในราว พ.ศ. 2444 พระยารัชฎานุประดิษฐ์
เราใช้ส่วนของผลหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าเมล็ดรับประทาน ปรุงอาหาร น้ำจากก้านผลใช้เป็นยาแก้เจ็บคอ ขับปัสสาวะ ใช้ผลิตไวน์ และช่วยกระตุ้นสมองให้จำได้ดีขึ้น ใบอ่อนใช้แก้โรคท้องร่วง โรคบิด ใบแก่ใช้บดพอกแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ ยางของมะม่วงหิมพานต์ใช้เป็นยากันปลวก ใช้ทำกาว

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
มะม่วงหิมพานต์มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anacardium accidentale L. อยู่ในตระกูลเดียวกับมะม่วงคือ Anacardiaceae เป็นพืชที่มีสีเขียวตลอดปี แตกกิ่งก้านแผ่กว้าง เนื้อไม้ไม่สู้แข็งนัก มียางเหนียวสีเหลือง
ใบ ค่อนข้างหนา ปลายใบกลมมน โคนใบแหลม ใบออกเป็นพุ่ม
ดอก ออกดอกเป็นช่อแบบพานิเคิล แต่ละดอกมีขนาดเล็กมาก มีกลิ่นหอม มีกลีบดอก 5 กลีบสีขาว กลีบเลี้ยง 5 กลีบ เมื่อดอกบานจะเริ่มเปลี่ยนจากสีขาวไปเป็นสีชมพูอมเหลือง ดอกมี 3 ชนิด คือ ดอกตัวผู้ ดอกตัวเมีย และดอกกะเทยอยู่บนช่อดอกเดียวกัน
ผล จะติดอยู่ตอนล่างของก้านอก ซึ่งเป็นก้านผลพองโตออก ส่วนผลที่แท้จริงคือ ส่วนที่มีรูปร่างคล้ายเมล็ด โดยทั่วไปเรียกว่า เมล็ด แท้ที่จริงแล้วคือ ผล เมื่อยังอ่อนมีสีเขียวเป็นมัน เมื่อแก่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาล มีเนื้อ ( kernel ) รูปไตอยู่ภายใน สีขาวนวล มีสองซีกประกบกัน

พันธุ์


พันธุ์ที่นิยมปลูก ได้แก่ ศิริชัย ศรีสะเกษ บราซิล อินเดีย อาฟริกา

การขยายพันธุ์


การเสียบยอดแบบเสียบลิ่ม
นิยมกระทำกับต้นมะม่วงหิมพานต์ที่มีต้นขนาดเล็ก ซึ่งได้จากการเพาะกล้าในถุงพลาสติกจนต้นโตได้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลำต้น 1/2-1 เซนติเมตรหรือเมื่ออายุได้ 2-2 1/2 เดือนหลังจากการเพาะแล้วจึงนำมาเสียบ


วิธีทำ
1. เพาะต้นตอลงในถุงพลาสติกจนอายุประมาณ 2- 2-1/2 เดือน
2. ตัดต้นตอเหลือยาว 3-5 นิ้ว ใช้มีดที่คมและสะอาดผ่าตามยาว แผลลึกประมาณ 1.5 เซนติเมตร
3. เลือกยอดพันธุ์ดีที่มีตาเต่งและเป็นยอดที่ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป
4. ตัดใบที่ติดอยู่กับยอดให้หมดและเอาตายอดเหลือไว้เพียง 1 ตา ใช้มีดเฉือนยอดให้เป็นรูปลิ่ม
5. เสียบยอดพันธุ์ดีลงบนต้นตอที่เตรียมไว้ให้เปลือกของต้นตอสัมผัสกับกิ่งพันธุ์ดีทั้ง 2 ข้าง หรือด้านใดด้านหนึ่ง
6. พันรอยแผลด้วยผ้าพลาสติกโดยพันจากล่างขึ้นบนจนมิดรอยแผล
7. ครอบด้วยถุงพลาสติก เพื่อต้นที่ต่อไว้จะได้ไม่เหี่ยว แล้วนำเข้าไว้ในที่ร่ม
8. เอาถุงที่ครอบออกเมื่อยอดพันธุ์ดีเริ่มแตกผลิยอดออกมาซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 25-30 วัน

การเสียบยอดแบบเสียบเปลือก
นิยมกระทำกับต้นมะม่วงหิมพานต์ที่มีต้นหรือกิ่งค่อนข้างโตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้วขึ้นไป


วิธีทำ
1. ต้นมะม่วงหิมพานต์ที่จะเปลี่ยนพันธุ์ดีบริเวณกิ่งต่างๆ ทุกกิ่ง โดยลอกเปลือกกิ่ง มะม่วงหิมพานต์ให้แผลยาว 3-5 นิ้ว แล้วตัดเปลือกที่ลอกออกให้เหลือ 1 ใน 3
2. เลือกยอดที่มีตาเต่งยอดไม่อ่อนหรือแก่เกินไป ตัดยอดให้ยาว 3-5 นิ้ว และริดใบออกให้หมด
3. ใช้มีดที่คมและสะอาดเฉือนยอดพันธุ์ดี
4. สอดยอดพันธุ์ดีลงในรอยเผยอของเปลือกที่เตรียมไว้ตามข้อ 1 ให้รอยแผลของกิ่งพันธุ์ดีแนบชิดกับต้นตอที่เปิดเปลือก
5. พันพลาสติกใสจากล่างขึ้นบน เพื่อกันน้ำซึมเข้าแผล
6. แก้พลาสติกออกหลังจากตาเริ่มผลิออก
7. การเจริญเติบโตของยอดมะม่วงหิมพานต์พันธุ์ดี

การปลูก


มะม่วงหิมพานต์สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด ดินเปรี้ยวก็สามารถปลูกได้ แต่จะต้องเป็นดินที่มีการระบายน้ำได้ดี มะม่วงหิมพานต์สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งได้ดี
เตรียมหลุมประมาณขนาด 30x30x30 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกและ รอคฟอสเฟต นำต้นกล้ามาปลูกโดยใช้ระยะปลูกประมาณ 6x6-8x8xเมตร ในระยะ 1 – 2 ปี อาจทำการปลูกพืชแซม เช่น สับปะรด น้อยหน่า เป็นต้น เพื่อเสริมรายได้ในระยะแรก
ควรใส่ปุ๋ยคอกอย่างน้อยปีละครั้ง และใส่ปุ๋ยวิยาศาสตร์เช่น 13-13-21 ปีละ 2 – 3 ครั้ง คลุมโคนต้นในฤดูแล้งเพื่อช่วยรักษาความชื้น มะม่วงหิมพานต์ไม่ต้องการตัดแต่งมากนัก นอกจากมีโรคและแมลงเข้ารบกวน

การเก็บเกี่ยว
มะม่วงหิมพานต์สามารถออกติดผลตั้งแต่ปีแรก เริ่มให้ผลผลิตมากในราวเดือน ธันวาคม – มกราคม ผลจะแก่เก็บเกี่ยวได้ต่อเมื่ออายุประมาณ 75 วัน ภายหลังการออกดอก เก็บเกี่ยวโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้ม ใช้ตะกร้อสอย หรือเขย่าให้ผลร่วง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...